ชอบแฟชั่นการแต่งตัว เริ่มมาจากชอบแต่งตัวตั้งแต่สมัยประถมเลย ชอบไปอยู่กับโซน เวลาไปห้างนานๆ พอขึ้นมัธยมก็เริ่มมีอิสระในการแต่งตัวมากขึ้นเริ่มรู้จักมิกซ์แอนแมทซ์มากขึ้น ช่วงนั้นเป็นช่วงพี่พังมากๆเพราะแมทซ์เสื้อผ้าไปตามอารมณ์และสิ่งที่ชอบใส่บ่อยๆ พอม.4 ได้ติดตามดาราและเน็ตไอดอลต่างๆ ก็เริ่มสนในการแต่งตัวมากขึ้นไปอีก แต่ตัวเองมีข้อจำกัดตรงที่ตั้งเด็กๆ 3-4 ขวบ แขนละขาของเรามันลายเป็นจุดๆเพราะน้ำเหลืองไม่ดี แม่จะบอกตลอดตั้งแต่เด็กว่าใส่กางเกงขายาวดีกว่ายุงจะได้ไม่กัด มันเลยเป็นความเคยชินไปเลยในการใส่กางเกงขายาว แต่พอเริ่มโตขึ้นมาเราคิดว่ามันไม่ใช่ข้อจำกัดขนาดนั้น เราสามารถแมทซ์อะไรที่เราไม่ได้ลองได้อีกเยอะเลย ในช่วงนั้นเราชอบเข้าดูทั้งเน็ตไอดอลและร้านขายเสื้อผ้าบนโลกออนไลน์ ว่าเดือนนี้พวกเขาใส่อะไรกัน เข้าฮิตอะไรกัน ตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจคำว่า แฟชั่น เท่าไหร่ แต่ก็เริ่มหาสไตล์การแต่งตัวของตัวเองได้ชัดมากขึ้น และติดตามอ่านเทรนแฟชั่นมากขึ้น ได้รู้จักคำว่าแฟชั่นมากขึ้น เทร นแฟชั่นต่างๆ สไตล์นี้เรียกว่างี้นะ สไตล์โน่นเรียกงั้นนะ พอเราเสพติดการเล่นอินสตาแกรม เราก็ได้เห็นแฟชั่นไอคอลต่างประเทศที่เขาแต่งตัวเจ๋งสไตล์ต่างๆ รู้จักกับแบรนด์ต่างๆมากขึ้น มีแบรนด์ที่ดีไซน์แบบแปลกใหม่ ทำให้เราชอบในแฟชั่นการแต่งตัวของเขา และนำการแต่งตัวของเขามาเป็นตัวอย่างการแต่งตัว เราอาจจะแต่งไม่เหมือน แต่ดูโทนสีการแมทซ์ เสื้อผ้า ที่ไม่เหมือนใคร มาปรับใช้กับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ ให้เป็นตัวเราในแบบของเราเอง และนอกจากตัวเราแล้วเพื่อนๆรอบข้างเราจะลุ้นเวลาชวนไปข้างนอกว่าเราจะแต่งตัวสไตล์ไหน มันสนุกตรงนี้ นอกจากดูพวกเขาเป็นตัวอย่างแล้วอินสตาแกรมยังเป็นแหล่งอัพเดท เทรนแฟชั่นที่รวดเร็วมากๆ จริงๆยุคนี้เป็นยุคแห่งฟาสแฟชั่น เทรนแฟชั่นไปเร็ว บางทีซื้อตามไม่ทันเลย ต้องมีสติกับการใช้เงินซื้อเสื้อผ้ามากๆเลย
FASHION SAYS “ME TOO”
STYLE SAYS ” ME ONLY”


